สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด

1,180 thoughts on “สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด”

1. จากการตอบคำถามของวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมคะ คนที่ 1 กู้เมื่อวันที่ 31/01/55 เท่ากับ 2,500,000 บาท มีหุ้น ณ วันที่ 30 พย.57 เท่ากับ 525,200 บาท หนี้คงเหลือ 2,024,000 บาท สวัสดิการสงเคราะห์ 310,000 บาท เสียประกันชีวิต 6,468 บาท ส่วนคนที่ 2 กู้เมื่อวันที่ 31/01/55 เท่ากับ 2,479,000 บาทมีหุ้น ณ วันที่ 30 พย.57 เท่ากับ 465,200 บาท หนี้คงเหลือ 2,219,359.26 บาท สวัสดิการสงเคราะห์ 280,000 บาท เสียประกันชีวิต 6,006 บาท

   1. จากข้อมูลที่ อ. แจ้งมา ของคนที่ 2 ประกันตรงแต่ส่วนคนที่ 1 เกินอยู่บางส่วน คนที่ 1 ต้องติดมาติดต่อที่สหกรณ์ เนื่องจากอาจมีรายการหักอย่างอื่นเพิ่มเติมครับ ขออภัยในความไม่สะดวก

2. อยากทราบว่าวันที่15ธันวาคม ส่งเอกสารกู้เอทีเอ็มได้ป่าวค่ะ มีเจ้าหน้าที่บางท่านบอกว่าได้ แต่ดูที่ประกาสมันงงนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

   1. lสามารถส่งได้ครับ แต่ขึ้นปีบัญชีใหม่ 2558 พิจารณาเงินกู้รอบแรก วันที่ 15 มกราคาม 2558 ครับ ส่งเอกสารก่อนวันที่ 5 มกราคม 2558 ครับ

3. ในรายการเงินปันผลและเฉลี่ยคืนมีรายการหักด้วย อยากทราบว่าหักค่าอะไรบ้าง

   1. เป็นค่าประกันชีวิตกลุ่ม ปี 2558 ครับ

4. ทำไม บางคนหนี้มากกว่า แต่เสียประกันน้อยกว่า คนที่หนี้น้อยกว่าคะ ที่ รร กู้พร้อมกัน ยอด 2,500,000 บาท ตอนนี้ คนหนึ่งเหลือหนี้ 2,000,000 กว่านิดหน่อย แต่อีกคนเหลือหนี้ 2,200,000 กว่าบาท แต่คนที่เหลือหนี้มาก จ่ายประกันแค่ 6,006 บาท คนเหลือหนี้น้อย เสียประกัน 6,468 บาทคะ

   1. ยอดเงินประกัน ขึ้นอยู่ กับ ค่าหุ้น ค่าฌาปนกิจ และหนี้คงเหลือ ครับ ถ้ารายละเอีดต่างๆ เท่ากันทุกอย่าง แต่ค่าประกันไม่เท่ากัน รบกวน แจ่งรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยครับ

5. การกู้งิน ฉฉ. ควรให้กู้ ได้ตามสิทธิ์ และคำยินยอมให้หักเงินเดือน เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
   คำว่ายินยอมให้หัก ก็คือความเต็มใจ สหกรณ์ก็น่าจะตอบสนองความต้องการของสมาชิก
   การพิจารณาตามความจำเป็นของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ก็ไม่เป็นมาตรฐานที่แน่นอน มันออกมาเป็นความรู้สึก ไม่ใช่ระเบียบแบบแผน ถ้ายึดระเบียบตึงมาก สมาชิกก็ไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริง เขาเดือดร้อนกันหมด แ ต่ไม่มีใครกล้าพูดกล้าแสดงออก เรื่องจริงก็คือมีครูของเราติดหนี้นอกระบบ การกู้ระบบธนาคารลืมไปได้เลย เงินเหลือน้อย เขาไม่ให้กู้ กู้ ชพค. ก็กู้ไม่ได้เงินไม่เหลือถึง 30 เปอร์เซนต์ ระเบียบนี้มีข้อดีอย่างไรก็ไม่ทราบ ตั้งออกมาเป็นโทษกับสมาชิกครูทั้งนั้น ตัวอย่างเช่นนี้ ครูก็ไม่ได้ไปต่อว่าใคร ยอมรับชะตากรรม ถ้าสหกรณ์อยากช่วยครูให้เป็นของขวัญกำลังใจให้กับครูที่เดือดร้อน ช่วยปรับปรุงหลักเกณฑ์การกู้ในทุกประเภทใหม่ แก้ปัญหาทีเดียวทั้งระบบ ไม่ใช่แก้รักษาหายแค่คนสองคน ที่เหลือตายหมด ขอเสนอแนวทางดังนี้
   1) ทุกประเภทการกู้ขยายจำนวนงวดเพื่อจ่ายน้อยลง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
   ขยายเพื่อให้ยอดเงินกู้ได้ปรับเพิ่มขึ้น จ่ายน้อยลง ไม่เดือดร้อนต้องไปพึ่งพาเงินนอก
   ระบบ
   2)การกู้ฉฉ. ให้สมาชิกเลือกหักเงินตามคำยินยอมให้หักเงินเดือน เพื่อช่วยบรรเทาหนีนอกระบบ สมารถเป็นเงินหมุนเวียนได้ตามกำลังตนสามารถนำส่งเงินสหกรณ์ได้ในแต่ละเดือน
   ถ้าเขาได้ตามสิทธิ์แล้ว การปรึกษาทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์ก็ลดลง งานก็จะน้อยลงด้วย
   3) รับจำนองเงินฝากออมทรัพย์เล่มสีแดงในอัตราดอกเบี้ยที่เท่ากับการกู้เงินสามัญได้ปกติ
   แก้ปัญหา แก้สภาพคล่องทางการเงินของสมาชิก ดอกเบี้ยเก็บจากหรายการหักประจำเดือน ฟังแล้วอาจจะขัดหูใครบางคน แต่มันก้เป็นแนวทางที่น่าจะเอาไปเกลาสักนิดหน่อยก็นำมาช่วยสมาชิกอีกแนวทางหนึ่ง เพราะมันสามารถขจัดปัญหาครูไปหยิบยื่นเงินจากเงินนอกระบบได้แน่นอน เพราะที่กล่าวมาข้างตนจะสามารถหมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่องได้ตลอด เมื่อสถานะทางการเงินคล่องตัวขึ้น ครูสามารถดำรงชีวิตได้แบบไม่ลำบาก เพราะครูไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ยอันแสนแพงครับ
   ครูกันดาร

   1. จะส่งเรื่องต่อให้ ฝ่าย บริหารอีกทีนะครับ

Comments are closed.